ไม่มีหมวดหมู่

อยาก เป็น แอร์-รีวิวสมัครแอร์ EP.2

1:แชร์เคล็ดลับ สมัครแอร์ฯผ่านทุกสายการบิน ! ✨✈️

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้จะมาแชร์เทคนิค5ข้อที่ทำให้คนที่มีความฝันในอาชีพนี้ประสบความสำเร็จ❤️✨

เนื่องจากมีคำถามเข้ามาเยอะมากๆเกี่ยวกับวิธีการและขั้นตอนการสมัครแอร์ฯถามมาหลายช่องทางมากขออนุญาตแชร์ในนี้เลยน๊าเราได้ใช้เวลาซักพักในการสรุปจากประสบการณ์ตรงของตัวเองล้วนๆรวบรวมเทคนิคดีๆทั้งหมดมาให้ซึ่งเพื่อนๆสามารถทำตามได้จริงแอบบอกว่ายาวหน่อยนะไปดูกันเลย!

🛫ข้อ1.เริ่มจากการเขียนCVเหมือนกับการสมัครงานอื่นๆที่เราต้องส่งใบสมัครก่อนเพื่อที่จะได้รับการคัดเลือกไปสัมภาษณ์CVควรใช้แบบฟอร์มที่simpleเรียบง่ายข้อมูลครบและความยาว1หน้าเท่านั้น!และที่สำคัญสำหรับคนที่เคยทำงานมาแล้วอย่าลืมเชื่อมโยงทักษะที่ใช้ในงานนั้นๆให้เข้ากับrequirementsของสายการบินด้วยหรือน้องๆที่เพิ่งเรียนจบสามารถเชื่อมโยงกิจกรรมที่เคยทำตอนเรียนได้

🛫ข้อ2.การแต่งหน้าบุคลิกภาพและการแต่งกายหรือที่เราเรียกกันว่าgroomingทุกๆสายการบินจะต้องมีการคัดเลือกรอบแรก(pre-screen)แนะนำให้ทุกคนดูแลผิวให้ดีที่สุดเพราะเมื่อเราอยู่ท่ามกลางผู้สมัครคนอื่นๆที่จัดเต็มมาแบบมองไปทางไหนก็มีแต่คนสวยจึงสำคัญมากที่เราจะต้องแต่งหน้าให้เป๊ะและความเป๊ะในที่นี้ไม่ใช่การแต่งหน้าจัดๆแต่คือการแต่งหน้าอย่างละเอียดใส่ใจกับทุกๆขั้นตอนมากขึ้นโดยเน้นสไตล์ที่เป็นตัวเองมากที่สุดแต่งแบบไหนแล้วเรามั่นใจจัดลุคนั้นมาเลยรวมถึงชุดที่ใส่ด้วย

🛫ข้อ3.ภาษาและวิธีการสื่อสารแน่นอนว่าในการสัมภาษณ์นอกจากกรรมการจะรับรู้ถึงAttitudeและความคิดเห็นต่างๆรวมถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาของเราว่ามีความเหมาะสมกับสายการบินมากน้อยแค่ไหนอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือภาษาที่ใช้และวิธีการพูดซึ่งส่วนใหญ่จะต้องใช้ภาษาอังกฤษได้ในระดับดีเยี่ยมดังนั้นจำเป็นมากที่จะต้องพัฒนาทักษะภาษาให้สื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติในทุกๆสถานการณ์

🛫ข้อ4.ความรู้รอบตัวและความสามารถในการทำงานเป็นทีมในขั้นตอนของการสัมภาษณ์จะมีgroupdiscussionซึ่งการที่เราติดตามข่าวสารต่างๆรวมถึงความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสายการบินจะทำให้เราสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างมั่นใจและโดดเด่นนอกจากนี้เมื่อเราต้องพูดต่อหน้าคนอื่นๆอีกหลายๆคนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฟังให้มากสนับสนุนได้โต้แย้งได้แต่จะต้องมีเหตุผลและรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นเสมอเปิดใจให้กว้าง

🛫ข้อ5.ความมั่นใจเมื่อเราเตรียมตัวทุกขั้นตอนภายนอกมาอย่างดีแล้วภายในคือจิตใต้สำนึกเราจะต้องเห็นภาพตัวเองได้งานนี้ด้วยทำให้เต็มที่ไม่ต้องเปรียบเทียบตัวเองกับใครเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุดมั่นใจว่าเราต้องทำได้ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้เท่านี้เลย!

จริงๆอยากเขียนเยอะกว่านี้นะแต่พื้นที่น่าจะจำกัดแล้ว😂🥺ใครจะสมัครแอร์ฯช่วงนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนน๊าาาได้ติดปีกกันแน่นอน💓✨

2:เทคนิคสัมภาษณ์แอร์ยังไงให้ผ่านไปรอบไฟนอล

สวัสดีค่ะเรามาแชร์ประสบการณสัมภาษณ์การสมัครลูกเรือ

ที่มาบอกนี่เราไม่ได้เป็นลูกเรือนะคะและไม่เคยเป็น

เกือบได้เป็น55เราเข้าไฟนอลมาแล้วนับไม่ถ้วน

และไม่เคยตกรอบแรกเลย(firstinterview,grooming,walk)

เทคนิครอบแรกๆคือเราต้องพูดจาฉะฉาน

แต่ไม่แสดงออกจนเว่อร์หรือก้าวร้าวกับกรรมการ

แสดงจุดเด่นของเราให้เค้าเห็นยิ้มเยอะๆเดินหลังตรง

แสดงออกว่าเราทำงานเป็นทีมได้กล้าแชร์ไอเดีย

กล้าเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์เวลาทำกิจกรรมกลุ่ม

ภาษาต้องได้ระดับสื่อสารได้ไม่ต้องเก่งมากอย่าเครียดไปค่ะ

รีวิวโพรเสดของสายการบินในไทยได้ประมานนี้

1.สัมภาษณ์วันแรก

รอบที่1แนะนำตัวสั้นๆให้น่าสนใจตรวจบุคลิกเล็บต้องทำสีนะคะผิวพรรณควรแว็กซ์ขนให้ดูสะอาดค่ะกรูมมิ่งสวยมีสไตล์ตามสายการบินกำหนดการแต่งหน้าเข้ากับลุคของสายการบินนั้นๆและให้เดินลากกระเป๋า(บางสายการบิน)

รอบนี้ต้องเด่นไว้ก่อนค่ะ🤣

เพราะคนเยอะมากกส่วนมากจะไม่ผ่านกันรอบนี้

เพราะคัดออกเยอะใครไม่ผ่านกลับเลยค่ะ

บ๊ายบายกันตรงนั้นต้องยิ้มสวยไหว้สวย

แนะนำตัวอย่างมีเอกลักษณ์

ผ่านมารอบสองจะแบ่งกลุ่มให้เราทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ

มีโจทย์ให้แก้ให้ดิสคัสมีจำลองสถานการณ์

ดูการแก้ปัญหาโดยใช้ภาษาอังกฤษค่ะและส่วนมากจะมีหลายรอบย่อยๆมีการแสดงบ้างแล้วแต่สายการบินเลยค่ะเราต้องเตรียมไปบ้างนะคะจะได้ไม่ช็อคตอนให้ทำและดูทำการบ้านไปค่ะกรรมการชอบ

2.สัมภาษณ์วันที่2

รอบไฟนอลรอบนี้คือคนเหลือน้อยสักประมานร้อยกว่าคน

เอานิดเดียวค่ะประมาน30-40รอบนี้เตรียมตัวตอบคำถามให้ดีค่ะสัมภาษณ์ตัวต่อตัวถามลึกจริงงมีคำถามเชิงความรู้เยอะด้วยเค้าจะทดสอบว่าเรามีความรู้เรื่องลูกเรือมากแค่ไหนบางคำถามเกี่ยวกับการเชื่อมโยงงานปัจจุบันเรากับการเป็นลูกเรือว่าจะเอาประสบการณ์ส่วนไหนมาทำแล้วแต่ดวงแล้วแต่สไตล์คนถามเลยค่ะ

เราเคยอยากเป็นลูกเรือมาก่อนและตั้งใจสมัครไปหลายๆที่

ติดไฟนอลทุกรอบแต่ไม่เคยผ่านเลยค่ะถึงจะเป็นช่วงเวลาที่เราใชเเวลากับมันไม่นานแค่ประมานครึ่งปี(คนอื่นสมัครกันหลายปีมากกว่าจะติดแต่บางคนก้อรอบเดียวได้เลย)

แต่ความพยายามครั้งนั้นมันทำให้เราพัฒนาตัวเองขึ้นมาก

ทั้งบุคคลิกภาษาการทำงานเป็นทีมมันทำให้เราฉลาด

และสมาร์ทขึ้นใครที่กำลังมองงานทางนี้

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะสู้ๆค่ะ💖🥰🥰🤘🏻

3:เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อยากเป็นแอร์ ต้องอดทน

อยาก เป็น แอร์_

4:รีวิวสมัครแอร์ ep.1

อยาก เป็น แอร์_

เราคนนึงอยากเป็นแอร์มากๆๆๆๆๆๆอยากเป็นตั้งแต่เด็กๆแล้วไม่รู้ว่าทำไมแล้วเราชอบภาษาอังกฤษมากๆๆ

จนวันนึงจบม.6ก็เลยเลือกเรียนสายท่องเที่ยวโรงแรมภาคอินเตอร์เพื่ออยากทำงานสายบริการแต่ดั้นนนช่วงปี4เทอม12019โควิดมาแล้วเริ่มระบาดหนักช่วงสิ้นปีได้เรียนออนไลน์และเทอม2ได้เรียนออนไลน์ข่าวช่วงนั้นประเทศเริ่มปิดการท่อวเที่ยวโรงแรมเริ่มถอยเราก็ถอดใจละสงสัยจะมาสายนี้ไม่ได้เรียนจบช่วงโควิดเลยตัดสินใจหางานสายใหม่เพราะไม่อยากตกงานเราก็มาทำสายdigitalmarketing,onlineแต่พอช่วงปลายปี2021ต้นปี2022มีสายการบินแขกมาเปิดรับเราก็ยังมีไฟอยู่ไหนๆเค้าก็มาเปิดรับสมัครเราไปลองหน่อยดีกว่า

เราก็เตรียมตัวๆทำcv,ฝึกพูดหน้ากระจก,ฝึกภาษาอังกฤษ,แล้วพอพร้อมก็ส่งไบสมัครแบบonlineแล้วก็ได้invitedให้ไปสัมรอบprescreen

เป็นรอบ3วิที่ทุกคนว่ากรรมการถามน้อยมากกกให้เอื้อมแตะ212ซม

เราก็ทำให้เต็มที่ที่สุดและแล้วววววเราก็ได้ผ่านเข้ารอบรอบต่อไป

วันต่อมาก็กลับไปฝึกข้อสอบภาษาอังกฤษแกรมม่าต่างเพื่อมาสอบรอบวัดระดับภาษาอังกฤษ

และพอทำเสร็จก็ลุ้นอีกจะผ่านไหมมมแต่สุดท้ายก็ผ่านให้ไปรอบถัดไป

พอไปถึงรอบchitchatกรรมการให้เอื้อมแตะอีกรอบนึง

แล้วก็โดนถามว่ามีแผลเป็นตรงไหนไหมซึ่งเรามีแผลเป็นที่ใหญ่มากๆๆคือแผลผ่าตัดกระดูกที่ขาเลย

เราก็declaredกรรมการไปแล้วกรรมการก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วก็ให้เราหยิบคำพูดแบบimpromptu

เราได้คำว่าhaveyoueverfeelregretwithsomething

เรากำลังจะอ้าปากตอบกรรมการบอกขอบคุณ

เราเลยรู้แล้วว่าไม่ผ่านรอบนี่แน่ๆๆ

แล้วก็ออกจากห้องมานั่งรอผล

สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ผ่านจริงๆแต่เราไม่ย่อท้อเรากลับไปสู้ใหม่แต่สายการบินอื่นสุดท้ายตอนนี้เราติดปีกแล้ว

ไว้มาเม้าต่อep.2

5:รีวิวสมัครแอร์ EP.2

หลังจากที่เราตุ้บกาตาร์มาใช่ไหมเพราะเรามีแผลเป็น

แต่ความใฝ่ฝันของเราคือการได้เป็นแอร์ติดปีกโดยไม่เกี่ยงสายสายไหนก็ได้ขอแค่ได้เป็นแอร์(แต่ใจจริงๆเราผิวเข้มหน้าเข้มเราเลยอยากได้สายนอก)แต่แผลเป็นไม่เป็นใจขอเวลาเลเซอร์ก่อนค่ะ

เราตกกาตาร์มาตอนต้นปีคือช่วงมกราคม65แล้วนกแอร์ก็มาเปิดรับสมัครพอดี

เราเลยเอาวะลองดูอีกรอบไม่เสียหายอย่างน้อยถ้าตกอีกก็ถือว่าเป็นภูมิคุ้มกันให้เสียใจน้อยลงแต่ถ้าไม่ได้ลองคงเสียใจมาก

เราเลยไปดูว่าเค้าต้องการอะไร

ก็มีส่วนสูง160cm

Toeic650+

อายุไม่เกิน28

เราก็อ่านๆๆrequirementsว่าเรามีอะไรแล้วบ้าง

โแเคเรามีหมดละแต่เชื่อไหมว่าเราก็กล้าๆกลัวๆเพราะว่าอะไรรู้ไหมเราไปดูในเพจนกแอร์cabincrewมีแต่คนสดใสน่ารักๆๆๆแต่เราเองคือสาวเข้มแบบเข้ม!!!!!!!ผิวดำเลยก็ว่าได้

แต่เราจะไม่เอาตรงนี้มาเป็นอุปสรรคเพราะเรามั่นใจว่าเราก็สดใสร่าเริงได้สวยมากกกกกกกกมั่นหน้าไว้ก่อน

แล้วทีนี้ทางนกแอร์ให้เรากรอกใบสมัคร

✅ด่านที่1โดยส่งcvคะแนนโทอิค,รูป3รูป,และวีดีโอตีมนกชวนเที่ยว30วินาที

(เดี๋ยววีดีโอมาลงให้โพสต์ถัดไปน้าา)

หลังจากส่งไปวันประกาศผลก็ลุ้นมากกกจะผ่านไหมสุดท้ายก็ผ่านแต่ตอนนั้นว่าจะไม่ไปสัมแล้วเพราะลางานไม่ได้แต่อีกใจก็อยากไปลองและสนามสอบใกล้บ้านเลยตัดสินใจไป

พอไปนะทุกคนคือขาวสวยดูน่ารักไปหมดเลยส่วนเราก็ดูหมองๆๆแต่เราจะมีทัศนคติที่lookdownตัวเองไม่ได้เราเลยไปส่องกระจกถ่ายรูปแล้วก็พูดกับตัวเองว่าเอ้ะกูก็ไม่ได้แย่นิวันนี้สวยมากกกกกกกกเลยต่างหากเติมลิปได้กำลังใจจากตัวเองเดินออกมา

✅ด่านที่2ยื่นเอกสาร(ตรงนี้สำคัญมากๆต้องมั่นใจว่าเตรียมเอกสารครบถ้าไม่ครบปัดตกทันที)📍📍📍❗️

✅ด่านที่3:และหลังจากนั้นให้ไปวัดส่วนสูงตรวจผิวถ่ายรูปตรงนี้ถ้าใครสูงไม่ถึง160ให้ลองไปก่อนน้าพี่เค้าให้โอกาสแบบยืดตัวๆถ้าใครยืดแล้วไม่ผ่านก็อาจจะตกได้😭😭มีคนก่อนหน้าเราตกไป2คนแต่ไม่แน่ใจว่าตกไปเยอะไหม

หลังจากวัดส่วนสูงตรวจผิวตรวจเล็บเสร็จ(เอ้อออย่าลืมทาเล็บเด็ดขาดสำคัญมาก💅)

ก็เข้าไปรอในห้องฟังกรรมพูดว่าขั้นตอนต่อไปจะเป็นอะไร

แล้วก็นั่งกันเป็นกลุ่ม

✅ด่านที่4ขั้นตอนต่อไปคือการทำgroupdiscussion

❗️❗️❗️รอบนี้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดน้า❗️❗️

กรรมการจะให้โจทย์มาเป็นภาษาอังกฤษให้เราทำกรุ้ปกับเพื่อนแล้วมาdiscussกัน

ขอบอกทริคเลยว่าขั้นตอนนี้ห้ามมมม!!!❌โดดเด่นเกินหน้าเกินตาเพื่อนเด็ดขาดและก็ห้ามเงียบอยู่นิ่งๆเด็ดขาดเพราะตรงนี้กรรมการจะดูว่าเราทำงานเป็นทีมได้ไหมเป็นผู้นำที่ดีได้ไหมและเป็นผู้ตามที่ดีได้ไหม

เวลาทำกรุ้ปdiscussionจะอยู่ที่15นาทีแล้วให้เราวิเคราะห์สรุปแล้วเลือกตัวแทน1คนออกมาพรีเซ้นที่เราวิเคราะห์กัน

หลังจากเราทำgroupdiscussionเสร็จ

ด่านต่อไปคือChitchat

กรรมการจะให้เราหยิบคำสุ่มคำให้เราพูด2นาทีเป็นภาษาอังกฤษ

และให้เวลาคิดไม่เกิน1นาทีเราได้คำว่าinfluencer

บาฃคนได้คำว่าtaplet,shoppingonline,socialmedia(ศัพท์ไม่ยาก)

และหลังพูดจบก็คือเสร็จสิ้น

ให้เราไปรอผลที่บ้านเอ้อออยากจะบอกว่าทั้งหมดที่เข้ารอบprescreenมาประมาณ300กว่าคน

แล้วเราก็รอๆๆๆจนตอนเย็นเมลเด้งปรากฏว่าเราผ่านนนนดีใจมากแล้วก็มาวันถัดไปมาสั่มไฟนอล

แล้วเค้าตัดคนออกเยอะมากกกเหลือไม่ถึง100คน

แล้วก็รอคิวสัมภาษณ์ไฟนอลรอบไฟนอลนี้คือเรา1อคนต่อกรรมการ3-4คน

ใช้เวลาสัมคนละประมาณ20-30นาที

เราเข้าไปเจอกรรมการ4คน

ขั้นตอนแรกก็สวัสดีกรรมการแนะนำตัวกรรมการก็ถามปกติ

แล้วเริ่มถามยากขึ้นคือทำไมอยากเปลี่ยนสายงานทำงานด้านonlinemarketingมาทำไมถึงอยากเป็นแอร์เราก็ตอบไป

แล้วก็เริ่มเป็นคำถามที่เกี่ยวกับเหตุการณ์จำลองมากขึ้น

เราโดนถามว่าลูกค้าไม่ยอมรัดเข็มขัดจะทำยังไงแล้วลูกค้าไม่ยอมเก็บกระเป๋าเพราะกระเป๋าคือhermesจะทำยังไง

แล้วก็ให้เราลองจำลองว่าเราเป็นแอร์ว่าเราจะชวนผู้โดยสารไปเที่ยวทำอย่างไรบ้าง

เคยมีเหตุการณ์ที่ทำให้โกรธมากๆไหมแล้วควบคุมยังไง

ถ้าผิดใจกันกับรุ่นพี่หัวหน้างานทำยังไง

และสุดท้ายหลังจากสัมภาษณ์ใกล้จะจบกรรมการก็ถามเราว่ามีอะไรจะถามไหมเราบอกว่าไม่มีอะไรจะถามแล้วแต่เราอยากขอบคุณกรรมการทุกคนที่ใจดีให้โอกาสเข้ามาถึงรอบไฟนอล

เพราะแค่นี้ก็เกินคาดมากๆแล้ว

แล้วกรรมการก็ยิ้มแย้มแล้วก็บอกเราว่าให้รอผลพรุ่งนี้6โมงเย็นถ้าไม่ได้ไม่ต้องเสียใจนะ

เราก็บอกไม่เป็นไรค่ะแล้วก็ขอบคุณอีกครั้งนึง

จนวันต่อมาไม่ทำงานเลยลุ้นมากจน6โมงเมลก็ยังไม่เข้า

คนอื่นได้กันหมดแล้วเหลือเราผ่านไปสักพักเมลเด้งแล้วเพื่อนเราได้เมลcongratulationsกันหมด

เราก็ลุ้นๆๆจนเมลมาเราก็ไปเปิดตอนนั้นใจเต้นมากกกกพออ่านเราเห็นว่าเราเป็นตัวสำรองก็ดีใจปนเสียใจ

แต่ก็รอต่อไปจนกระทั่ง4เดือนเราได้เมลอีกรอบว่าเราผ่านนน

และสุดท้ายนี้เราติดปีกเราทำสำเร็จ

ถ้าเราไม่มาสัมเพราะมัวแต่ผิดหวังกับกาตาร์เราคงไม่มีวันนี้

เราอยากให้ทุกคนอย่าทรยศกับความฝันและความพยายามของตัวเองนำสิ่งที่ผิดพลาดมาปรับปรุงแล้วมันจะดีขึ้นเรื่อยๆๆ

เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังล่าฝันอยู่นะคะ

6:อยากเป็นแอร์? เตรียมตัวยังไงดี ✈️✨

อยาก เป็น แอร์_

สวัสดีค่าสำหรับสาวๆที่อยากเป็นแอร์พรีมมีประสบการณ์มาแชร์+ข้อดีข้อเสียของอาชีพค่ะ

**อันนี้เป็นแค่มุมมองส่วนบุคคลของคนที่เคยเป็นแอร์และออกมาแล้วนะคะไม่ไช่ข้อเท็จจริงน้า**

อย่างแรกเลยการเตรียมตัว📚👨‍🎓

1.สถาบันสอนแอร์

เราจะเห็นว่ามีสถาบันสอนแอร์เยอะเลยซึ่งช่วงที่พรีมสมัครก็ได้ไปลงเรียนอยู่เหมือนกันค่ะข้อดีคือเจอเพื่อนอุดมการณ์เดียวกันได้แชร์ประสบการณ์กันเรียนรู้ไปพร้อมๆกันซึ่งเพื่อนเหล่านี้ก็จะสอบติดไปพร้อมๆกับเราเป็นเพื่อนกันต่อตอนบินเนี้ยแหละค่ะ😚😊

แต่ถ้าถามพรีมจริงๆคือมันไม่ต้องไปเรียนก็ได้นะ555จะได้ไม่เสียเงินด้วยประหยัดไปได้หลายหมื่นเลยแต่ว่าเราต้องรู้จักตัวเองต้องดักทางเลยว่าถ้าเค้าถามมาแบบนี้เราควรตอบยังไง!ขั้นตอนการสมัครเป็นยังไงมีกี่รอบแต่ละรอบจุดประสงค์ของกิจกรรมคืออะไรอันนี้แหละที่สำคัญจริงๆ⭐️

2.อ่านรีวิวหาข้อมูล

ออนไลน์เฟสบุคมีเยอะแยะเลยอันนี้สำคัญเหมือนกันนะคะเผื่อเค้ามีเปลี่ยนแนวข้อสอบต่างๆเราจะได้ทันค่ะจะได้รู้แนวคำถามที่เค้าจะถามเราด้วยยลองอ่านดูแล้วคิดว่าถ้าเป็นเราจะตอบยังไงแล้วถ้าเราตอบไปแบบนี้คิดว่าเค้ามีโอกาสจะถามอะไรต่อต้องปิดจุดตายตรงนี้ค่ะ

3.เตรียมสัมภาษณ์

เราต้องเป็นคนที่รู้จักตัวเองดีที่สุดนะคะเอาเรซูเมมากางเลยแล้วลองถามคำถามกับตัวเองเลยว่าถ้าเราเห็นเรซูเมเราเนี้ยเราจะถามอะไรกับตัวเราจุดเด่นที่ดีเราคืออะไรจุดด้อยที่เรามีเราจะปิด/พูดยังไงให้มันเป็นจุดที่ดีหรือจุดที่เรากำลังแก้ไขอยู่ได้ยังไงทักษะการแก้ไขปัญหาของเราเป็นยังไงประสบการณ์การทำงานของเรา

⭐️คำถามเกี่ยวกับตัวเองไม่ควรพลาดนะคะไม่มีใครรู้จักเราดีเท่าตัวเราเองค่าตอนสัมจริงจะมีทั้งคำถามที่เราคาดไม่ถึงและส่วนที่เตรียมไปได้นะคะส่วนนี้เรามองว่าเตรียมเยอะได้เปรียบค่ะ

👑tips:

-ลองสัมภาษณ์ให้เพื่อนฟังดูค่ะแล้วอัดเสียงดูน้ำเสียงเวลาเราตอบตอบเร็วไปไหมพูดเร็วจนฟังแล้วคนฟังเหนื่อยรึป่าวแอร์เป็นอาชีพที่ต้องพูดคุยกับผู้โดยสารน้ำเสียงแบบไหนที่ถ้าเราเป็นผู้โดยสารเราอยากได้ยินลองคิดกลับในมุมนั้นดูค่ะคำตอบแบบไหนน้ำเสียงแบบไหนที่ถ้าเราเป็นผู้โดยสารเป็นผู้สัมภาษณ์อยากได้ยิน

-อย่าลืมพวกคำถามแนวถ้าเจอแบบนี้จะทำยังไงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆถ้าต้องเลือกระหว่างa,b,cจะเลือกอันไหนและทำไมสำคัญไม่ไช่ว่าเราจะเลือกอะไรแต่คือเหตุผลที่เราใช้supportนะคะ

4.ภาษา

ขึ้นชื่อว่าเป็นแอร์ยังไงก็ควรได้ภาษาอังกฤษคือเราไม่ต้องnativeสำเนียงดีเว่ออะไรแบบนั้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่สื่อสารได้เข้าใจสอบผ่านคะแนนtoeicหรือข้อสอบตามที่สายการบินกำหนดค่ะ

ถ้าถามพรีมพวกคำตอบสัมภาษณ์ต่างๆก็เตรียมไว้เป็นภาษาอังกฤษก็ดีนะคะถึงแม้ว่าจะสอบสายการบินในไทยก็ตามเพราะบางทีเค้าหยิบมาถามได้ค่ะ(ตอนพรีมสัมภาษณ์ก็เจอภาษาอังกฤษเยอะอยู่นะพวกเบสิคๆแนะนำตัวทำไมอยากเป็นแอร์เล่างาน/challengesการแก้ปัญหาอะไรแบบนี้ควรเป็นคำถามที่เราตอบได้คล่องทั้งไทย/อังกฤษเนอะ)

👑tips:ภาษาอังกฤษต้องเตรียมตัวทำข้อสอบฝึกการฟังการอ่านเยอะๆอย่าคิดจะไปมั่วตอนนั้นไปใช้senseต้องเตรียมตัวเท่านั้นยิ่งถ้ารู้ว่าไม่เก่งต้องอ่านให้เยอะเราไม่ไช่nativesที่ใช้ภาษาออกมาแบบnaturalอะไรแบบนั้นค่ะ

5.บุคลิกภาพ

เราไม่ต้องสวยปังเพื่อจะเป็นแอร์แต่ให้เราคิดว่าคนแบบไหนที่สายการบินเค้าเลือกมาใส่ชุดยูนิฟอร์มของเค้าซึ่งจากนี้ไปเนี้ยเวลาเราเดินไปไหนทำอะไรคนจะไม่ได้มองเราเป็นบุคคลแต่จะมองเราในมุมสายการบินบุคลิกนั้นควรเป็นยังไง

แต่งกายสุภาพเรียบร้อยเมคอัพไม่ฉูดฉาดเกินผมเรียบไม่ยุ่งทาเล็บใส่นาฬิกาใส่ถุงน่องปิดแผลเป็น(ถ้ามี)เรื่องgroomingของแอร์จะละเอียดมากๆค่ะลองศึกษาแต่ละสายน้า

👑tips:จุดนี้พรีมมองว่าไม่ควรพลาดนะคะไม่ต้องใช้กึ๋นเลยเสื้อผ้าไม่ยับใส่ถุงน่องผมเรียบอันนี้พูดถึงตอนไปสัมภาษณ์งานนะคะเราก็ควรเป๊ะไว้ก่อนค่ะ(ของจริงตอนลงจากไฟล์ทจะเยินมากก55)

😊ตอนเราสอบเราใส่สูทกับกระโปรงสีชมพูเลยค่ะสีเดียวกับชุดในรูปเลย555จ้างช่างหน้าผมด้วยเพราะทำไม่เป็นค่ะทาเล็บสีออกครีมๆถุงน่องส้นสูงคู่เดียวกับรับปริญญาค่ะแต่อันนี้แล้วแต่สายนะคะต้องเช็คดูด้วยน้าบางสายอาจชอบแต่งหน้าเข้มหน่อยปากแดงลองศึกษาดูค่า

6.ความรู้พื้นฐานของอาชีพสายการบินเบื้องต้น

แอร์เป็นอาชีพที่คัดลูกเรือจริงจังมากเราควรเข้าใจแก่นอาชีพด้วยนะคะ

⭐️แอร์เป็นงานบริการแบบนึงที่ไม่ไช่แค่การบริการเรื่องความสะดวกสบายตลอดเส้นทางแต่เป็นเรื่องของการดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารซึ่งเรื่องนี้สำคัญมากกกกเนื่องจากเกี่ยวข้องกับชีวิตคนอื่นและตัวเราด้วยยกตัวอย่างเช่นการevacuateหากเกิดกรณีฉุกเฉินต่างๆเช่นเครื่องมีปัญหาต้องลงจอดฉุกเฉินจอดบนบกในบริเวณสนามบินในป่าหรือบนน้ำ(แบบหนังเรื่องsully)หรือรวมไปถึงfirstaidการปฐมพยาบาลให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้นค่ะ

⭐️ความรู้จะมีทั้งเรื่องของsafetyและserviceซึ่งหลังจากที่เราสอบได้เนี้ยเราจะมีการเทรนค่ะดังนั้นเราจะต้องเปลี่ยนmindsetด้วยเนอะไม่เข้าไปสวยเฉยๆอยากเที่ยวอยากตะลุยโลกอะไรแบบนั้น😂มองให้ลึกลงไปว่าทำไมเราอยากทำอาชีพนี้มันสร้างประโยชน์คุณค่าทางใจเราหรือต่อคนอื่นได้ยังไงได้บ้าง🫶🏻🥹

👑tips:ความรู้เบื้องต้นเฉพาะสายการบินก็ควรทราบนะคะไม่ต้องละเอียดแบบปีที่ก่อตั้งอะไรแบบนั้นรู้คร่าวๆว่าบินแถวไหนทวีปไหนสายการบินประจำชาติอะไรเบสิคๆที่เสริชกูเกิ้ลแล้วเจอค่ะ

7.Fakeituntilyoumakeitvs.Beyourself

ต้องbalance2อย่างนี้ด้วยน้าไม่จำคำตอบนกแก้วนกขุนทองแต่ก็ไม่หวังsenseตอนสอบสัมภาษณ์เราอยากเป็นคนแบบไหนให้ฝึกจนกว่าเราจะเป็นคนแบบนั้นอย่างธรรมชาตินะคะ

🫶🏻🥹ต่อมาป้ายยากันถ้าติดแล้วเนอะ

3ข้อดี:

🥳รายได้:ทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่ารายได้ค่อนข้างดีเลยยถ้าเทียบกับเด็กจบใหม่ทั่วไปรวมๆ

🥳ได้เที่ยวเยอะมาก:ยิ่งบินinterจะไปต่างประเทศบ่อยกว่าเดินไปหน้าปากซอยบ้านเลยค่ะ555(แต่ความจริงจะเหนื่อยหน่อยนะเพราะอดนอนมา)

🥳เจอคนหลากหลาย(จริงๆ):คนหลากหลายประเทศคนหลากหลายประเภททำงานกับทีมงานคนใหม่ตลอดๆพอออกมาทำออฟฟิสนี่ไม่เจอใครเลยค่ะ555

3ข้อเสีย:

🫣สุขภาพ:พังค่ะเวลากินนอนมั่วไปหมดไฟล์ทกลางคืนไฟล์ทดึกไม่ต้องพูดค่ะหุ่นผิวผมอ้วนง่ายสิวขึ้นต้องดูแลตัวเองเยอะมากกกกก

🫣เวลาจะผ่านไปเร็วมากจริงๆ:บินๆแป๊ปๆหันมาอีกที3ปีแล้วหรอเนี้ย555เหมือนเวลาเราจะไม่เท่ากับเพื่อนนะคะอันนี้ต้องเตรียมใจไว้เลยเพื่อนเค้าอาจเรียนต่อสมัครงานเลื่อนตำแหน่งแต่การเลื่อนขั้นต่างๆของแอร์จะต่างออกไปเราต้องวางแผนอนาคตไว้ด้วยนะคะ⭐️⭐️

🫣Relationship:เพื่อนแฟนต่างๆวันหยุดบางทีก็ต้องไปบินแฟนเลิกงานเราไปทำงานต้องmanageดีๆนะคะยิ่งไฟล์ทไกลค้างหลายวันอาจไม่ได้กลับบ้าน5วันเลย

หวังว่าจะช่วยเพื่อนๆปลุกไฟในตัวคุณนะคะสู้ๆนะค้าขอให้ได้ตามฝันทุกคนนะคะ🫶🏻🥰😊

7:เป็นแอร์ต้องทำอะไรเป็นบ้าง ?

วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูว่าการเป็นแอร์ไม่ใช่แค่บริการอย่างที่ใครส่วนใหญ่พูดกัน

แต่หน้าที่หลักๆของการเป็นแอนั่นก็คือดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารในทุกทุกเที่ยวบินต้องให้เกิดอันตรายน้อยที่สุดและพาผู้โดยสารส่งถึงที่หมายให้ปลอดภัยที่สุดวันนี้เราจะพามาดูกันว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้บนเครื่องบินเราจะต้องทำอะไรบ้างอันดับแรกเราจะต้องรู้วิธีการดับไฟให้เป็นและรู้ว่าไฟไหม้อะไรและควรใช้ถังดับเพลิงประเภทไหนในการดับไฟวันนี้เราได้มาลองทำหลังจากเรียนเสร็จว่าไฟมีประเภทไหนบ้างพอเรียนหนังสือแล้วก็มาฝึกภาคปฏิบัติ

คือการดับไฟโดนใช้ถังดับเพลิงประเภทhalon

นี่คือหนึ่งในการดูแลความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายและทั้งหมดนี้คือหน้าที่หลักๆของการเป็นลูกเรือ.

และสุคนี้อยากให้ทุกคนเห็นใจว่าการเป็นแอร์ไม่ใช่แค่ให้บริการกับผู้โดยสารแต่มันคือsafetyfirstafterservice

You may also like...